MARKET ORDER
Market Order คือการ Buy หรือ Sell ที่ราคาปัจจุบัน ยกตัวอย่างเช่นถ้า EUR/USD ราคา BID อยู่ที่ 1.2140 และ ASK อยู่ที่ 1.2142 ถ้าเราทำการเข้า BUY ราคาที่เราจะได้ก็คือราคา ASK ที่ 1.2142 และระบบก็ จะทำการเปิด Order ให้เราที่ราคา ASK ในทันที หรือเรียกง่ายๆก็คือการเข้าซื้อ ณ ราคาปัจจุบัน
Limit Entry Limit order คือการที่เราตั้งให้ BUY ที่ราคาต่ำกว่าราคาตลาด หรือ SELL ที่ราคาสูงกว่าราคาตลาด ยกตัวอย่างเช่น EUR/USD ราคาปัจจุบันอยู่ที่ 1.2050 ถ้าเราต้องการเข้า Short ที่ราคา 1.2070 เรา สามารถรอให้ราคาถึง 1.2070 แล้วกด SELL โดยใช้ Market order หรือสามารถใช้คำสั่ง Limit Order เพื่อทำการเปิด SELL การทำอย่างนี้คือเราไม่ ต้องรอให้ราคาไปถึงก็สามารถเปิด Order รอไว้ก่อน ได้เลย
การตั้ง Order วิธีนี้เป็นการที่เราคาดการณ์ว่าจะเกิดการกลับตัวของราคาจึงใช้ Limit Order วางรอไว้เมื่อราคามาถึง Order ก็จะเปิดสวนกับทิศทางที่กำลัง ดำเนินอยู่ในทันที
STOP ENTRY
Stop Order คือการวางคำสั่งซื้อ ที่ให้ทำการ BUY ที่ราคาสุงกว่าราคาปัจจุบัน และ SELL ที่ราคาต่ำกว่าปัจจุบัน
ยกตัวอย่างเช่น GBP/USD ราคาปัจจุบันอยู่ที่ 1.5050 และกำลังขึ้นอยู่ คุณคาดการณ์ว่าถ้า GBP/USD ราคาสามารถไปถึง 1.5060 จะเป็นราคาที่ สำคัญทำให้กราฟพุ่งขึ้นต่อไป คุณอาจจะนั่งรอให้ ราคาถึง 1.5060 หรือใช้ BUY STOP เพื่อเข้า BUY เมื่อราคาถึง 1.5060 โดยอัตโนมัติ
STOP LOSS
Stop Loss เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ไว้ใช้สำหรับป้องกัน การสูญเสียมากกว่าที่จำเป็น โดยที่เราจะตั้งราคาที่เป็น ตัวป้องกันไว้ และเมื่อถึงราคานั้น ระบบจะทำการปิด Position ที่เราถืออยู่ให้โดยทันที การตั้งนี้จะมีผลตลอดถ้า Position ยังเปิดอยู่ ยกเว้นว่าเราไปยกเลิก
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณ Long EUR/USD ที่ 1.2230 เพื่อป้องกันการสูญเสีย คุณตั้ง Stoploss ไว้ที่ 1.2200 นั่นหมายความว่าถ้าราคาไม่เป็นไปตามที่คาดการ เกิดดึ่งหัวลงมาที่ 1.2200 โปรแกรมเทรดก็ จะสั่งปิด Position โดยอัตโนมัติ ตามที่เราได้ตั้ง Stop loss ไว้ และเราก็จะติดลบ 30 Pips
ถ้าไม่มี Stoploss เราก็ต้องนั่งเฝ้าหน้าจอตลอดเวลา ไม่งั้นก็อาจจะเสี่ยงต้อการขาดทุนจนหมดตัวหรือที่เรียกว่า ล้างพอร์ต ได้เลย