ค่าเงินดอลล่าห์ยังคงแข็งค่าต่อเนื่อง ในเช้าวันนี้(25 มีนาคม) โดยแตะระดับสูงสุดในรอบสี่เดือน เมื่อเทียบกับยูโร ปัจจัยเกิดจากการรับมือกับไวรัส COVID-19 ที่สหรัฐนั้นทำได้ดีกว่าฝั่งยุโรปพอสมคว
Dollar Index เมื่อเทียบกับสกุลเงิน Major เพิ่มขึ้น 0.04% ไปอยู่ที่ระดับ 92.650 สกุลเงินดอลล่าห์สหรัฐยังคงแข็งค่าต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน
FED ยังให้ความมั่นใจแก่นักลงทุนว่าเศรษฐกิจของสหรัฐจะกลับมาแข็งแกร่งและมีแนวโน้มในทางบวกอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความกังวลเรื่องอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น
ในขณะที่ยุโรปนั้น ยังคงต่อสู้กับไวรัส COVID- 19 ที่กลับมาระบาดอีกครั้งเป็นระลอกที่ 3 การประกาศ LOCKDOWN ของทางเยอรมันก็ล้มเหลว และไม่ได้รับความร่วมมือจากประชาชนเท่าที่ควร ทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อเศรษฐกิจของยุโรปว่าจะฟื้นตัวนั้นยังเป็นแนวโน้มที่ไม่ดี
จุดอ่อนของยุโรปตอนนี้แม้จะมีการเปิดตัววัคซีน COVID-19 ไปแล้ว แต่ตัวเลขของผู้ติดเชื้อก็ยังเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง
แม้ว่าตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของเยอรมันและ PMI ภาคการผลิตและบริการของยุโรปจะออกมาดี แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้นักลงทุนเพิ่มความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจยุโรปได้
ทองปิดบวก $8.1 วิตกโควิดระบาดยุโรปหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการเมื่อคืนนี้ (24 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการที่ประเทศยุโรปยังคงใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 8.1 ดอลลาร์ หรือ 0.47% ปิดที่ 1,733.2 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในยุโรป โดยล่าสุดรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ประกาศขยายเวลาล็อกดาวน์ออกไปจนถึงวันที่ 20 เม.ย. หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น
นายมาร์ค รุตเตอ นายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์กล่าวว่า “จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่รักษาตัวอยู่ในแผนกผู้ป่วยหนักเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณว่าเสี่ยงจะเกิดการแพร่ระบาดรอบ 3 จึงต้องขยายเวลาบังคับใช้มาตรการที่มีอยู่ต่อไป”
นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐยังเป็นอีกปัจจัยที่หนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ลดลง 1.1% ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเม.ย.ปีที่แล้ว หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.5% ในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.8%