ค่าเงินดอลล่าห์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินประเทศที่พึ่งพาการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์(commodity )รายใหญ่ เนื่องจากนักลงทุนคาด ราคาน้ำมัน ทองแดง เหล็ก และ โลหะอื่นๆ จะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจากเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มฟื้นตัว
นักลงทุนจับตามองตัวเลข U.S. consumer price data ในวันพุธที่จะถึงนี้ เพื่อดูว่าจะมีแรงกดดันทำให้อัตราพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐสูงขึ้น และชะลอแนวโน้มขาลงของดอลล่าห์สหรัฐได้หรือไม่
พันธบัตรและค่าเงินดอลล่าห์สหรฐเริ่มมีความไม่แน่นอน จากการคาดการณ์ของนักลงทุนว่าทางธนาคารกลางสหรัฐ (FED) น่าจะลดการเข้าซื้อพันธบัตรและมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ย จากโนมโน้มทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวได้ดี
การแถลงการของ FED ในสัปดาห์นี้ ยังมีหลายอย่างที่ทำให้นักลงทุนต้องครุ่นคิดเกี่ยวกับการวางนโยบายในภายภาคหน้าที่เกี่ยวข้องกับการระบาดของ COVID-19 ระลอกใหม่ ที่เกิดขึ้นในหลายประเทศ
Yukio Ishizuki นักยุทธศาสตร์การแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของ Daiwa Securities กล่าว ” ตอนนี้การลงทุนที่น่าจับตามองคือการดูราคาของสินค้าโภคภัณฑ์ ( commodity) แล้วเข้าซื้อสกุลเงินที่เป็นประเทศผู้ส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์( commodity ) รายใหญ่ “
“ตลาดยังมีคาดสงสัยว่า FED จะมีท่าทีเกี่ยวกับเงินเฟ้ออย่างไรต่อไป และความไม่แน่นอนของนโยบาย ทำให้สกุลเงินบางคู่ซื้อขายกันอยู่ในกรอบแคบๆ”
นักลงทุนจำนวนมากคาดการณ์ว่าความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์จะเพิ่มขึ้นเนื่องจากการฉีดวัคซีน COVID 19 สามารถทำให้เศรษฐกิจหลายประเทศกลับมาดำเนินกิจการได้ตามปกติ
USDJPY ราคาอยู่ที่ 108.87 ไม่ค่อยมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น
ดอลล่าห์แคนนาดาซื้อขายอยู่ที่ 1.2097 ดอลล่าห์ ใกล้เคียงกับระดับที่ดอลล่าห์สหรัฐอ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 3 ปี
ดอลล่าห์ออสเตรเลียขยับขึ้นมาที่ 0.7836 ดอลล่าห์ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 11 สัปดาห์
เงินปอนด์ของอังกฤษซื้อขายอยู่ที่ระดับ 1.4130 ดอลล่าห์ซึ่งใกล้ระดับที่แข็งค่าที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 25 กุมภาพันธ์ เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังในการเติบโตทางเศรษฐกิจของอังกฤษ
Ether ซื้อขายอยู่ที่ 3,906 ดอลล่าห์ ลดลงเล็กน้อยหลังจากที่เคยขึ้นไปอยู่ที่ 4,200 ดอลล่าห์ ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์
Bitcoin ซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 55,578 ดอลล่าห์สหรัฐ ลดลงเล็กน้อย