ค่าเงินดอลล่าห์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก อ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์ ปัจจัยจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ปรับตัวลดลง
ค่าเงินดอลล่าห์สหรัฐปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ขึ้นไปทำสถิติสูงสุดเมื่อเดือนมีนาคม สวนทางกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจทั่วโลกที่กำลังฟื้นตัวจากสถานการณ์การระบาดของ COVID-19
Dollar Index เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอยู่ที่ 91.196 ในช่วงเช้าวันนี้ (21 เม.ษ.) จากก่อนหน้านี้ในวันอังคาร ( 20 เม.ษ.) ลดลงไปอยู่ที่ 90.856 โดยเดือนนี้ได้ลดลงไปแล้วกว่า 2.2 %
นักยุทธศาสตร์ของ Westpac เขียนไว้ในบันทึกของลูกค้า ” ตอนนี้ Dollar Index ได้ทะลุแนวรับสำคัญที่ 91.30 และน่าจะปรับตัวลดลงสู่ระดับ 90 และ ค่าเงินยูโรจะปรับตัวเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ ระดับ $ 1.22″
อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 1.56% ซึ่งใกล้เคียงกับระดับต่ำสุดนับตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม และยังลดลงต่อเนื่องจากที่เคยขึ้นไปถึง 1.7760 % ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือนเมื่อสิ้นเดือนมีนาคม
นักวิเคราะห์ได้ให้ความเห็นว่า “การที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐลดลง เป็นหลักฐานที่ทำให้เชื่อว่า FED จะดำเนินนโยบายทางการเงินที่เข้มงวดช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้”
EUR/USD อยู่ที่ระดับ 1.2039 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ปรับตัวขึ้นไปที่ 1.2079 ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดในรอบ 7 สัปดาห์ นักลงทุนจับตามองการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรปที่จะมีขึ้นในวันพฤหัสนี้
ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นหลังจากการประกาศว่าจะได้รับวัคซีนป้องกัน COVID-19 เพิ่มขึ้น 100 ล้านโดส ที่ผลิตโดย BioNTech และ Pfizer
USD/JPY เพิ่มขึ้น 0.1 % ไปอยู่ที่ระดับ 108.30