ค่าเงินดอลล่าห์กลับมาแข็งค่าใกล้ระดับสูงสุดในรอบหลายเดือน หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ ( FED ) ได้สร้างความประหลาดใจด้วยการประกาศว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยและจะยุติการซื้อพันธบัตรก่อนกำหนดที่เคยประกาศไว้
Dollar Index เพิ่มขึ้นถึง 1.9% ในสัปดาห์ที่แล้วซึ่งเพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เดือน มีนาคม 2020
Chris Weston หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ Pepperstone Markets Ltd โบรกเกอร์แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศกล่าวว่า “ตอนนี้ Dollar Index ทดสอบระดับ Fibo ที่ 61.8 คาดว่าจะเห็นการกลับตัวเพียงเล็กน้อย”
“ ตอนนี้ปัจจัยทางเทคนิคไม่ค่อยส่งผลต่อ สถานการณ์ของค่าเงินดอลล่าห์สหรัฐแข็งค่าขึ้นในขณะนี้”
ค่าเงินยูโรเมื่อเทียบกับดอลล่าห์สหรัฐอยู่ที่ 1.1872 ดอลล่าห์ ในวันศุกร์ที่ผ่านมาราคาอยู่ที่ 1.1847 ดอลล่าห์ซึ่งต่ำสุดในรอบ 2 เดือนครึ่ง
ค่าเงินปอนด์อังกฤษเมื่อเทียบกับดอลล่าห์สหรัฐอยู่ท่ 1.3809 ซึ่งยังตงใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือนที่ 1.3791 ดอลล่าห์
ค่าเงินเยนเมื่อเทียบกับดอลล่าห์สหรัฐแข็งค่าขึ้น จากที่นักลงทุนมองว่าเงินเยนเป็นสกุลเงินที่มีความเสี่ยงต่ำ
เป็นการกลับมาแข็งค่าขึ้นหลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้อ่อนค่าไปอยู่ที่ 110.825 เยน ต่อดอลล่าห์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือนครึ่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
ความผันผวนที่เกิดขึ้นในตลาด FOREX นั้นเป็นผลมาจากการที่คณะกรรมกรนโยบายของ FED 13 คน จาก 18 คน ได้ให้ความเห็นที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปี 2566 ซึ่งเร็วกว่ากำหนดการเดิมที่วางเอาไว้
นักลงทุนมีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้นอีกครั้งหลังจากนายเจมส์ บุลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แห่งเซนต์หลุยส์กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า “การเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ ที่เข้มงวดมากขึ้นและเร็วกว่ากำหนดการณ์เดิมนั้น เกิดจากการที่การเติบโตทางเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อสหรัฐ เพิ่มขึ้นรวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้”
นักวิเคราะห์ระบุ โกลด์แมน แซคส์ (NYSE: GS ) กล่าวว่า “การเคลื่อนไหวของ FED น่าประหลาดใจมาก และเราอาจจะเห็น EUR/USD ร่วงลงอีก 2 % ถ้าอัตราดอกเบี้ยทางฝั่งยุโรปยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง”
แต่ก็ยังมีข้อสังเกตุว่าดอลล่าห์อาจจะไม่สามารถแข็งค่าขึ้นต่อไปได้ เนื่องจากธนาคารกลางอื่นๆ ก็กำลังพิจารณาเรื่องอัตราดอกเบี้ยเช่นเดียวกัน เนื่องจากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว
