ค่าเงินดอลล่าห์อ่อนค่าลงต่ำสุดในรอบสองสัปดาห์ครึ่ง ในวันจันทร์ช่วงเช้า( 12 เม.ษ.) เหตุจากผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ลดต่ำลง ทำให้ค่าเงินดอลล่าห์สหรัฐลดต่ำลงด้วย
ตอนนี้ทั้งค่าเงินดอลล่าห์สหรัฐและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐต่างลดลง หลังจากที่ปรับเพิ่มขึ้นสูงสุดในปลายเดือนที่แล้ว และปรับตัวเพิ่มขึ้นก่อนห้านี้หลายเดือน จากแรงหนุนด้านการฟิ้นตัวทางเศรษฐกิจหลังจากก่อนหน้านี้ได้รับผลกระทบจากไวรัส COVID-19
ตอนนี้ FED ได้ออกมาตอกย้ำให้นักลงทุนเชื่อมั่นในเศรษฐกิจสหรัฐ และบอกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้มีผลแค่ระยะสั้นเท่านั้น ตัวเลข producer price ของสหรัฐที่ออกในวันศุกร์(9 เม.ษ.) มาทำให้ค่าเงินดอลล่าห์สหรัฐแข็งค่าขึ้น รอดพ้นจากระดับที่เลวร้ายที่สุดในรอบสัปดาห์ของปีนี้ไปได้
Dollar index อยู่ที่ระดับ 92.193 ในช่วงเช้าวันจันทร์( 12 เม.ษ.) หลังจากที่ลดลงวไป 0.9 % ในสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำกว่า 92 ซึ่งแย่ที่สุดนับตั้งแต่ 23 มีนาคม
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปีอยู่ที่ 1.6745 % หลังจากลดลงต่ำสุดที่ 1.6170% ในสัปดาห์ที่แล้ว อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี เคยขึ้นไปจุดสูงสุดที่ 1.7760% ในวันที่ 30 มีนาคม
นักยุทธศาสตร์ของธนาคารแห่งชาติออสเตรเลีย (OTC: NABZY) Tapas Strickland
ได้ให้ความเห็น ” สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญในการคาดการค่าเงินดอลล่าห์ในระยะสั้น คือ ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐจะสามารถให้ผลตอบแทนที่สูงหรือเทียบเท่าที่เกิดขึ้นในเดือนมีนาคมได้หรือไม่”
จากตัวเลข Producer price ของสหรัฐที่ออกมามากที่สุดในรอบ 2 ปีครึ่ง สนุบสนุนว่าเงินเฟ้อของสหรัฐมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้น และเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวอย่างมากจากมาตรการการควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19 และการอัดฉีดเม็ดเงินเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐ
U.S. consumer price data จะประกาศออกมาในวันอังคาร ( 13 เม.ษ.)
ประธาน FED นาย Jerome Powell ได้ให้สัมภาษณ์กับรายการ 60 Minutes ของ CBS “ตอนนี้เศรษฐกิจของสหรัฐอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ จากการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและจะดำเนินต่อไปในเดือนข้างหน้า แต่ก็ยังมีความเสี่ยงที่ไวรัส COVID-19 จะกลับมาระบาดอยู่ เนื่องจากประชาชนเริ่มออกมาใช้ชีวิตตามปรกติมากขึ้น”