ค่าเงินดอลล่าห์สหรัฐ(USD) อ่อนค่าลงในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนเริ่มกลับไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงกว่า
ค่าเงินดอลล่าห์นิวซีแลนด์(NZD) เมื่อเทียบกับดอลล่าห์สหรัฐ(USD) แข็งค่าขึ้น 0.8% ในวันอังคาร ซึ่งเป็นวันที่มีการแข็งค่ามากที่สุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม ฟื้นตัวขึ้นมาจากระดับต่ำสุดในรอบปีที่ $0.6757 และค่าเงินปอนด์(GBP) ก็แข็งค่าขึ้น 0.46% ซึ่งแข็งค่ามากที่สุดในรอบเดือน
ค่าเงินดอลล่าห์สหรัฐ(USD) เมื่อเทียบกับเงินเยน(JPY) แข็งค่าขึ้น 0.44% การเคลื่อนไหวของค่าเงินเมื่อวานนี้เป็นทิศทางเดียวกับราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น 1.6%
Dollar Index เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักลดลงมาอยู่ที่ 96.411 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Dollar Index อยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 16 เดือนที่ 96.994
ตอนนี้ตลาดนั้นค่อนข้างผันผวนเนื่องจากนักลงทุนกำลังประเมินความเสี่ยงของการระบาดของ COVID-19 สายพันธ์ Omicron
หุ้นถูกเทขายในวันจันทร์ และ Dollar Index แข็งค่าขึ้น 0.7% ในวันศุกร์ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ตามปกติแล้วช่วงเวลาคริสมาสตลาดจะไม่ค่อยมีความเคลื่อนไหว แต่เพราะเกิดการระบาดครั้งใหม่ของ COVID -19 สายพันธ์ Omicron และมีการตัดสินใจที่สำคัญของมาจากธนาคารประเทศต่างๆ ทำให้อาจจะมีปริมาณการซื้อขายมากกว่าปีที่ผ่านๆมา
ในสัปดาห์ที่แล้วอังกฤษเป็นชาติแรกในกลุ่มประเทศ G7 ที่ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของ COVID -19 ในขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ(FED) ก็ส่งสัญญาณว่าจะเริ่มลดมาตรการการช่วยเหลือทางเศรษฐกิจลงในปี 2565 แต่ธนาคารกลางยุโรปยังไม่มีมาตรการอะไรที่แน่ชัดออกมา
การติดเชื้อของ COVID-19 สายพันธ์ Omicron ที่เริ่มแพร่ระบาดอย่างทวีคูณในยุโรปทำให้ประเทศต่างๆทั่วโลกเริ่มพิจารณามาตรการควบคุมและจำกัดการเข้าประเทศอีกครั้ง
แต่รายงานของ Bloomberg ว่าสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกาเตรียมอนุมัติยารักษา COVID-19 จากทั้งPfizer Inc (NYSE: PFE ) และ Merck โดยเร็วที่สุดในวันพุธทำให้คลายความกังวลได้บ้าง